ชาวอเมริกันร่วมใจสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ

วอชิงตัน ดี.ซี. – วันนี้ (29 พฤศจิกายน 2568) ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาคือวัน "Small Business Saturday" ซึ่งเป็นวันที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 แล้ว กิจกรรมนี้จัดขึ้นในวันเสาร์แรกหลังวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) เพื่อรณรงค์ให้ผู้บริโภคหันมาสนับสนุนและจับจ่ายซื้อสินค้าจากธุรกิจขนาดเล็กในชุมชนของตนเอง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น

วัน Small Business Saturday ถือกำเนิดขึ้นในปี 2553 (2010) โดยบริษัท American Express ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากภาวะถดถอยครั้งใหญ่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในร้านค้าปลีกและธุรกิจบริการขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก และได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่สำคัญในช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปี เคียงคู่ไปกับ Black Friday และ Cyber Monday

สำหรับปีนี้ Small Business Saturday มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากยังคงเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อ ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ค้ารายใหญ่ออนไลน์ การสนับสนุนจากผู้บริโภคในวันนี้จึงไม่ใช่แค่การซื้อของขวัญ แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อความอยู่รอดและความเจริญรุ่งเรืองของชุมชน

เจ้าของร้านหนังสืออิสระในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด กล่าวว่า "วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งของปีสำหรับเรา มันไม่ใช่แค่เรื่องยอดขาย แต่เป็นวันที่เราได้เชื่อมต่อกับลูกค้าประจำและได้พบลูกค้าใหม่ๆ ที่ตั้งใจมาสนับสนุนเราโดยเฉพาะ" ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคจำนวนมากก็แสดงความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรมนี้ เช่น ครอบครัวหนึ่งในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ที่วางแผนจะซื้อของขวัญสำหรับเทศกาลคริสต์มาสจากร้านค้าในท้องถิ่นทั้งหมด "เราต้องการให้เงินของเราหมุนเวียนอยู่ในชุมชน และสินค้าจากร้านเล็กๆ ก็มักจะมีเอกลักษณ์และเรื่องราวที่ไม่เหมือนใคร"

หน่วยงานบริหารธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐฯ (SBA) และองค์กรการค้าต่างๆ ทั่วประเทศได้ร่วมกันโปรโมทแคมเปญนี้อย่างแข็งขัน โดยมีการจัดทำแผนที่ร้านค้าที่เข้าร่วมกิจกรรม และนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียภายใต้แฮชแท็ก #ShopSmall และ #SmallBusinessSaturday เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง

แม้จะอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่จิตวิญญาณของ Small Business Saturday ยังคงแข็งแกร่ง และเป็นเครื่องย้ำเตือนว่าพลังของผู้บริโภคแต่ละคนสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจอเมริกันได้